เชื่อว่าคนที่เคยเดินทางไปเที่ยวประเทศในแถบเทือกเขาหิมาลัยเช่นอินเดีย เนปาล ทิเบต คงต้องเคยได้ยินชื่อของผ้าพัชมีนา (Pashmina) ของฝากและของที่ระลึกยอดฮิต พัชมีนาเป็นผ้าที่ทำจากขนแพะซึ่งมีชื่อว่า "พัชม์" (Pashm) หรือในภาษาลาตินเรียกว่า "คาปรา ไฮร์คัส" (Capra Hircus) ของแท้ ทำจากขนคาง และแผงที่อกของแพะภูเขา มีคุณสมบัติพิเศษที่ให้ความอบอุ่น นุ่มสบาย มีความยืดหยุ่นสูง ทั้งยังมีน้ำหนักเบากว่าเส้นใยธรรมชาติอื่นๆ แพะชนิดนี้อาศัยอยู่ในที่สูง เช่น เทือกเขาหิมาลัย และใต้เขตไซบีเรีย เช่น มองโกเลีย คาซัคสถาน ด้านในของประเทศอิหร่าน และอัฟกานิสถาน
| ภาพจาก pashminawear.com |
เมื่อถึงฤดูกาลผลัดขน ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นจะค่อยๆเก็บสะสมให้ได้จำนวนเพียงพอต่อการทอเป็นผ้าห่มกันหนาว ผ้าห่ม หรือ ผ้าคลุมชั้นดี 1 ผืน จะต้องใช้ขนแพะ 3 ตัว นำมาทอด้วยมือซึ่งมีความยากลำบากมากในการทำแต่ละผืนออกมา หากเป็นแพะที่อยู่บนเทือกเขาสูงขึ้นไปอีกจะราคาหลายหมื่น เส้นใยที่ใช้ทอผ้าพัชมีนาที่ปั่นด้วยมือโดยใช้วิธีแบบดั้งเดิมที่ไม่ใช่วิธีที่ตามพัฒนามาจากวิธีแบบยุโรป ปัจจุบันนี้ PASHMINA ถูกใช้เป็นคำเรียกสำหรับผ้าคลุมไหล่ทั่วไปที่มีปมอยู่ที่ปลายผ้า ราคาก็มีให้เลือกห่มได้ตามฐานะ ตั้งแต่ราคาเป็นหมื่น ไปจนถึงเป็นแสน
ที่เนปาล ย่านที่เป็นแหล่งใหญ่ขายพัชมีนาเห็นจะเป็นย่านริมทะเลสาบเฟวา (Phewa Lake) และย่านทาเมล (Thamel) ที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งของนักท่องเที่ยว มีขายแทบทุกร้านก็ว่าได้ ที่แคชเมียร์สามารถหาซื้อได้ในเมืองศรีนาการ์ ส่วนราคาก็แตกต่างกันไปตามคุณภาพของวัสดุ ซึ่งเท่าที่เคยได้พูดคุยกับชาวแคชเมียร์ถ้าเป็นผ้าที่ทอจากขนส่วนเคราของแพะจะมีราคาแพงที่สุด เนื่องจากเป็นขนส่วนที่มีความอ่อนนุ่มและมีปริมาณน้อย รองลงมาคือขนส่วนท้องและลำตัว ซึ่งถ้าเป็นผ้าที่ทอจากขนเคราแพะล้วนๆ (ซึ่งแพงมาก) คนขายที่เนปาลจะเอาเก็บไว้ในเซฟ ไม่ได้เอาออกมาโชว์ไว้ในร้าน ผ้าแบบนี้แหละที่สามารถดึงผ่านรูแหวนวงเล็กๆได้อย่างง่ายดาย ใครที่สนใจจะซื้อต้องไปบอกเจ้าของร้านเขาถึงจะไปหยิบออกมาให้ดู เท่าที่เคยเห็นจะเป็นราคาตั้งแต่สองหมื่่นอัพ สีก็จะเป็นสีทึมๆตามธรรมชาติเนื้อผ้าก็จะละเอียดบางเบา แบบที่เห็นแล้วดูออกได้เลยว่าทอมาจากขนของสัตว์ล้วนๆ ไม่มีการปักลวดลายตกแต่ง มองผ่านๆจะเหมือนผ้าเก่า ถ้าเป็นคนที่ไม่รู้จักพัชมีน่าคงจะเดาราคาของผ้าอันแสนแพงไม่ถูกแน่ๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อแบบปน CottonหรือปนSilk ที่มักจะพบวางขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดซึ่งมีสีสันสวยงามกว่า และด้วยคุณสมบัติของเนื้อผ้าที่มีความหนากว่าแบบที่เป็นขนสัตว์100% จึงสามารถปักลวดลายลงไปได้ (แต่ลอดแหวนไม่ได้แน่ๆ) ราคาของผ้าที่เป็นเนื้อผสมนี้ก็จะแตกต่างกันไปตาม% ของขนสัตว์และความละเอียดของลวดลาย เวลามีคนมาซื้อคนขายก็จะจุดไฟเผาส่วนชายผ้าให้ลูกค้าลองดมเพื่อพิสูจน์ความเป็นwool ที่เมื่อเผาจะมีกลิ่นเหมือนเส้นผมเราเวลาไหม้
| ภาพจาก www.innoxa.com.np |
ในการเลือกซื้อผ้าคลุมไหล่พัชมีนาซึ่งปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ หลายราคาตั้งแต่ถูกจนน่าตกใจเพียงผืนละไม่กี่ร้อย (ปลอมแน่นอน และส่วนมากรับมาจากจีน) ไปจนถึงราคาเป็นหมื่นเป็นแสน แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวคิดว่า ถ้าให้ดีราคาตกเป็นเงินไทยไม่ควรต่ำกว่า 3พันถึงจะได้พัชมีนาคุณภาพ อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ คือทุกร้านเมื่อเราเดินเข้าไปดู คนขายจะบอกก่อนเลยว่าทุกผืนเป็นพัชมีนา 100% แล้วก็จะบอกราคาแบบเกินจริง ซึ่งตรงนี้ก็จะต้องอาศัยพรสวรรค์ในการต่อราคาของเราเอง ผ้าคลุมไหล่อาจจะดูสวยคล้ายกันไปหมด เป็นร้อยเป็นพันแบบหลากหลายสี ละลานตาจนบางครั้งลูกค้าส่วนใหญ่เลิกสนใจว่าจะเป็นของแท้ไม่แท้ มีwool กี่เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าดูดีๆจะพบว่าที่ชายของผ้ามีลักษณะที่แตกต่างกันอยู่เพียงไม่กี่แบบ ผ้าที่ขายเป็นส่วนใหญ่จะมีชายแบบภาพบนซ้าย คิดว่าน่าจะมีเปอร์เซ็นต์ของวูลน้อยกว่าแบบภาพบนขวาที่ชายผ้าเห็นเป็นลักษณะของเส้นขนชัดเจน เพราะเคยซื้อพัชมีน่าสองผืนที่ลักษณะคล้ายกันมาก มีลายปักเต็มทั้งผืนเหมือนกันแต่ราคาต่างกันค่อนข้างมาก ลองสังเกตดูพบว่าชายผ้าของผืนที่แพงกว่ามีลักษณะตามภาพด้านบน(ขวา) ที่ต่อราคาเท่าไหร่คนขายก็ไม่ยอมลดอีกแล้ว และพบว่าเนื้อผ้าบางกว่า ลายปักก็ไม่ทึบเท่าผืนที่ผสมcotton และในภายหลังได้ซื้อแบบที่เป็นพัชมีนา 100% ไม่ผสมอะไรเลย(ผืนสีชมพู ด้านบน) ก็พบว่ามีชายแบบเดียวกันและเนื้อผ้าคล้ายๆกัน แต่ก็ใช่ว่าแบบที่เป็นเนื้อผ้าผสมจะมีราคาถูกกว่าเสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับรายละเอียด อย่างภาพบน(ซ้าย) ถ้าปักลายทั้งผืนราคาก็คงพุ่งตามค่าฝีมือเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น