วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557

ว่าด้วยเรื่องผ้า Pashmina (3)


จากบทความในครั้งก่อน หลายคนอาจยังสงสัยเกี่ยวกับการเลือกซื้อพัชมีนา ที่ปัจจุบันมีขายอยู่เกลื่อนตลาด อันไหนแท้ อันไหนปลอม จะดูอย่างไร... นี่เป็นเกร็ดความรู้คร่าวๆจากเว็บไซต์ของผู้ผลิตที่จะทำให้เราเข้าใจสินค้าพัชมีนาได้มากขึ้น

พัชมีนาเป็นสินค้าแฮนเมด คุณภาพของพัชมีนาขึ้นอยู่กับกระบวนการในการผลิต พัชมีนาแฮนเมดจะมีความละเอียดและความแน่นของเนื้อผ้ามากกว่า อบอุ่นและดูหรูหรากว่าแบบที่ผลิตโดยเครื่องจักร จากการที่พัชมีนาแท้ๆนั้นจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นใยเพียง 15 – 19 ไมครอนเท่านั้น จึงยากที่จะปั่นด้วยเครื่องจักร การปั่นส้นใยพัชมีนาที่ดีจะต้องทำด้วยมือ และอย่าให้ป้ายยี่ห้อหรือชื่อของแบรนด์ดังมาทำให้เราสับสน เพราะพัชมีนาส่วนใหญ่ทอโดยช่างท้องถิ่นในเนปาล จากนั้นร้านใหญ่จึงค่อยนำยี่ห้อไปติด ความจริงก็คือผ้าพันคอและผ้าคลุมไหล่พัชมีนาของผู้นำเข้ารายใหญ่นั้นมีบางส่วนที่ผลิตโดยเครื่องจักรซึ่งทำให้มีราคาถูกลง และทางร้านก็ยังคงรักษาชื่อเสียงที่น่าเชื่อถือไว้ได้ จุดสังเกตพัชมีนาที่ผลิตโดยเครื่องจักร ดูได้จากขอบที่ฐานผ้าซึ่งจะเรียบตรงแบบไม่เป็นธรรมชาติ
100% พัชมีนา จะหมายถึงขนแพะ (พัชมีนา)เพียวๆ ไม่มีไหมหรือเส้นใยอย่างอื่นมาปน แต่อย่างไรก็ตามคุณภาพที่แตกต่างกันของผ้า Pashmina แต่ละเกรดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย pashminasหรือแคชเมียร์ 100% จะไม่เป็นแข็งแรงเท่ากับแบบที่เป็น Pashmina 70% และผสมไหม 30% และผ้าพัชมีนาเกรดรองๆทั้งหลาย พัชมีนาบริสุทธิ์จะขาดความเงาและความหรูหราของเนื้อผ้าไหมที่บางคนชอบ ทำให้มีลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่พอใจจะซื้อแบบผสมไหมไปใช้มากกว่า
"ring shawl" คือผ้าคลุมไหล่พัชมีนาขนาดปกติ (82 x 32) ทำจากเส้นใยที่ละเอียดที่สุดทำให้ได้ผ้าที่บางจนสามารถลอดผ่านแหวนได้อย่างง่ายดายและเกือบจะไร้น้ำหนัก (เบากว่า 5 ออนซ์) ทั้งยังอุ่นกว่าผ้าคลุมไหล่ขนสัตว์ชนิดอื่นสองหรือสามเท่า มีสัมผัสนุ่มชนิดที่ไม่สามารถหาจากได้ขนสัตว์อื่นๆ
   หลายคนอาจเคยเจอพัชมีนาที่ขายในราคาถูกกว่าที่กล่าวมา นั่นขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้าพัชมีนานั้นๆด้วย ผ้าคลุมไหล่หรือผ้าพันคอที่ติดป้ายว่าเป็นพัชมีนาบางส่วนที่ทำในอินเดียและประเทศอื่นๆจะถูกลดคุณภาพลง ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่แย่ เพียงแค่คุณจะไม่ได้พัชมีนาของแท้ แม้แต่ในเนปาล ผ้าที่ถูกผลิตในรูปแบบเดียวกับพัชมีนาก็เกิดขึ้นมานานแล้ว ซึ่งจะกลายเป็นสินค้าที่มีราคาถูกลง บ้างทำจากใยอะคริลิค หรือจากขนสัตว์ที่หาได้ในท้องถิ่น เช่นขนแกะ หรือจากฝ้าย แต่โชคไม่ดีที่คำว่า "ผ้าพัชมีนา" มีความหมายทั่วไปค่อนข้างกว้าง ความเป็นจริงแล้วสินค้าพัชมีนาที่ได้รับความนิยมมากในประเทศตะวันตกทำจากเส้นใยผสมระหว่างขนสัตว์และไหม แต่ผู้คนก็ยังคงเรียกชื่อสินค้าแบบรวมๆว่าพัชมีนา
  คุณสมบัติอื่นๆของพัชมีนาหรือผ้าแคชเมียร์ ในการย้อมสีถ้าจะให้มีคุณภาพดีต้องใช้สีย้อมสวิส ผ้าคลุมไหล่โดยทั่วไปขนาด "full-size" จะประมาณ 82 "32" หรือ 35 "x78 พัชมีนาสีธรรมชาติ (ไม่ได้ย้อม) ก็อาจมีขนาดสอดคล้องกับค่านิยมเหล่านี้ แต่ผ้าจะหดตัวโดยประมาณ 4% (ประมาณ 3 นิ้วในระหว่างกระบวนการย้อมสี ทุกวันนี้ได้มีความพยายามที่จะชดเชยการหดตัวโดยการเพิ่มขนาดของผ้า แต่ก็ยากมากที่จะประสบความสำเร็จในการกำหนดขนาดเพราะผ้ามีความยืดหยุ่น และเป็นการทอด้วยมือที่ขนาดย่อมต้องมีความแปรปรวนไปบ้าง ขึ้นอยู่กับรูปแบบการทอ ความตึงของผ้าและอื่น ๆ ซึ่งตามธรรมชาติจะไม่มีการวัดได้แม่นยำ แต่ความจริงแล้วพัชมีนาสามารถทอในขนาดใดๆ ก็ได้ ที่เป็นความต้องการสั่งซื้อของลูกค้า
ความต่างระหว่างผ้าแบบ2ชั้นและชั้นเดียว
ผ้าคลุมไหล่แบบสองชั้นจะทอโดยใช้ด้ายคู่ ผลที่ได้คือผ้าที่หนานุ่มขึ้น แต่อย่าลืมว่าความบางเบาเป็นปัจจัยที่สำคัญในของผ้า Pashmina ที่แตกต่างจากผ้าชนิดอื่นๆ แต่ผลิตภัณฑ์ทั้งสองประเภทให้ความอบอุ่นไม่ต่างกันมากนักเพราะวัตถุดิบเหมือนกันคือคุณสมบัติของขนแพะ Chyangra (Capra Hircusที่ช่วยให้อบอุ่น
ในปัจจุบันนนอกจากประเทศแถบเทือกเขาหิมาลัยที่เป็นแหล่งต้นกำเนิดของผ้าพัชมีนาแล้ว ก็มีประเทศอื่นๆได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมพัชมีนาเช่นกัน นี่คือบทความเกี่ยวกับการผลิตสินค้าจากขนแพะแคชเมียร์ ที่ได้กลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในประเทศจีน

เสื้อขนแพะแคชเมียร์สุดหรูขุมทรัพย์มหาศาลของจีน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2554
 เจ้าแพะแคชเมียร์ รุ่นเด็กซุกซนเอาหัวโผล่ออกมานอกรั้วฟาร์มในเมืองโอดอส (เอ้อเอ่อตัวซือ) เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งว่ากันว่าผลิตขนแพะแคชเมียร์ ที่งดงามที่สุดในโลก ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2554 – เอเอฟพี

อู่ ซู่ชิง” สาวโรงงานทางภาคเหนือของจีนนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่เหนือเครื่องจักร ที่กำลังถักเสื้อขนแพะแคชเมียร์สีเขียวอย่างว่องไว ทุกวินาที ที่เครื่องถักไหมพรมเคลื่อนไหว และเสื้อเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อย ๆ 
      
       มันคือเงินทอง ที่หลั่งไหลเข้ามาสู่เจ้าของกิจการ และตัวของอู่เอง 
      
       เพราะเสื้อขนแพะสีสันสดใสเหล่านี้จุดหมายปลายทางอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า และราคามันแพงเอาเรื่องทีเดียว
อู่กับเพื่อน ๆ ในโรงงานอีกหลายสิบคนผลิตเสื้อขนสัตว์ หรือที่เรียกกันว่าเสื้อสเวตเตอร์ปีหนึ่งได้มากกว่า แสนตัว ซึ่งเมื่อเอาไปขายในกรุงปักกิ่ง หรือนครเซี่ยงไฮ้แล้ว ราคาตัวหนึ่งสูงถึงหลายร้อยดอลลาร์

“ แรก ๆ ฉันก็เหนื่อยหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ชินเสียแล้ว” เธอเล่าถึงสภาพการทำงานวันละ 11 ชั่วโมง ท่ามกลางเสียงแผดดังของเครื่องถักไหมพรมตรงหน้า ภายในโรงงานมอซอในเมืองโอดอส ( เอ้อเอ่อตัวซือ) ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
      
       ปัจจุบัน จีนเป็นชาติผู้ผลิตเสื้อขนแพะแคชเมียร์รายใหญ่สุดในโลก โดยป้อนสู่ตลาดโลกมากถึงร้อยละ 75-80 ซึ่งประมาณการณ์ว่า มีมูลค่าราว 5-6 พันล้านหยวนต่อปี
      
       ในบรรดาเสื้อขนสัตว์ประเภทต่าง ๆ นั้น เป็นที่รู้จักกันดีว่า เสื้อขนแพะพันธุ์แคชเมียร์มีราคาสูงมาก จนได้รับฉายาว่า ทองคำเนื้อนุ่ม” หรือ เส้นใยเพชร” และในขณะที่ยอดส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ และยุโรปหดตัวลงจากวิกฤตการเงินโลก แต่ รสนิยมใช้สินค้าหรูหรา ที่กำลังระบาดในเมืองจีนเอง ได้ทำให้เสื้อขนสัตว์หรูเริ่ดนี้ กำลังเป็นที่ต้องของตลาดในประเทศ 
      
       กล่าวได้ว่า สภาพอากาศในช่วงฤดูหนาว ซึ่งทั้งหนาวและแห้งแล้งบนพื้นที่ราบสูงในภาคเหนือและภาคตะวันตกของจีนเหมาะ สมอย่างยิ่งสำหรับการผลิตขนสัตว์ ซึ่งนุ่มหนาราวปุยเมฆนี้ เพราะแพะแคชเมียร์จะและเล็มหญ้า หากินกระจัดกระจายไปทั่วภูมิภาค และสร้างขนยาวให้ดกหนา รักษาร่างกายให้อบอุ่น 
      
       จากนั้น ขนของมันจะถูกนำมาปั่นเป็นเส้นด้ายหนา แล้วเอามาถักเป็นเสื้อสเวตเตอร์ ผ้าพันคอ และผ้าคลุมไหล่ แบรนด์หรูอย่างแอร์เมส และอีริก บงปา นำไปจำหน่ายที่ปารีส นิวยอร์ก และซิดนีย์
 
 เสื้อถักด้วยขนแพะ แคชเมียร์หลากหลายสีสันมีให้คุณเลือกมากมายที่ร้านขายปลีกในเมืองโอดอส (เอ้อเอ่อตัวซือ) เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน – เอเอฟพี
 
ขนแพะแคชเมียร์ดิบราคายังแพงขึ้นเกือบ เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อแพะแคชเมียร์ลดจำนวนลง เพราะสภาพอากาศหนาวรุนแรง และคำสั่งของทางการจีน ที่ห้ามเจ้าของฝูงแพะนำสัตว์เลี้ยงมาหากินกลางทุ่งหญ้าในเขตมองโกเลียใน เพราะจะทำให้หน้าดินถูกกัดเซาะ
      
       ราคาขนแพะแคชเมียร์ดิบ ที่แพงขึ้นทำให้แม่เฒ่า เมิ่ง โหลวหนี่ว์ คนเลี้ยงแพะวัย 77 ปี ยิ้มแก้มปริ เพราะครอบครัวของนาง ซึ่งอาศัยในหมู่บ้านริมทะเลทรายโกบี้ อันกว้างใหญ่ เลี้ยงแพะแคชเมียร์ตั้งหลายร้อยตัว ปีหนึ่ง ๆ มีรายได้ถึงหนึ่งล้านหยวน ยกระดับชีวิตให้ดีขึ้นอย่างมาก
 คนงานในโรงงานถักเสื้อขนแพะแคชเมียร์ในเมืองโอดอส (เอ้อเอ่อตัวซือ) เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน – เอเอฟพี
ด้านหญิงเจ้าของร้านขายส่งเสื้อขนแพะแคชเมียร์ในเมืองโอดอสเองบอกว่า เธอชอบขนสัตว์ชนิดนี้ เพราะมันสวมใส่แล้วสบายดี โดยเสื้อขนแพะแคชเมียร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ขายในเมืองแห่งนี้ได้สูงถึง 2,000 หยวน
      
       ทว่าสำหรับโรงงาน ที่ผลิตเสื้อออกขายนั้น ยิ้มไม่ค่อยออก เพราะนอกจากราคาขนแพะดิบจะแพงขึ้นแล้ว ธุรกิจยังแข่งขันกันมากขึ้น โรงงานผลิตเสื้อขนสัตว์แคชเมียร์ผุดขึ้นทุกหนทุกแห่งบนแดนมังกร เฉพาะในเมืองโอดอส มีโรงงานมากกว่า 10 แห่ง
      
       อู่ ซู่ชิง” สาวโรงงานผู้อาจไม่มีปัญหาซื้อเสื้อหรูราคาแพงระยับ ที่ผลิตมากับมือนี้ แต่เธอก็เข้าใจดีว่า ทำไมผู้คนจึงยอมจ่ายเงิน ซึ่งอาจมากเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนของเธอ หรือมากกว่าด้วยซ้ำ เพื่อได้เป็นเจ้าของมัน
      
       เมื่อสวมใส่แล้ว จะรู้สบาย และช่างดีจริง ๆ ค่ะ” เธอการันตี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น